หน้าเว็บ

31 มกราคม 2554

SUZUKI ECO CAR


ในทันที ที่ ภาพถ่ายคันจริง ของ Suzuki Swift รุ่นปี 2011 เผยแพร่สู่สาธารณชน เมื่อ 10 มิถุนายน 2010
ที่ผ่านมา ผู้คนในแวดวงรถยนต์บ้านเรา ก็เริ่มจับตามองว่า เป็นไปได้ไหม ที่ Suzuki จะนำ Swift เข้ามา
ประกอบ ณ โรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกของตนที่เมืองไทย ในฐษนะ ECO Car ประจำค่าย?

หลังได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไทย ให้สามารถผลิตรถยนต์ ECO Car ได้ ร่วมกับผู้ผลิตรายอื่นๆ ในเดือน 
ธันวาคม 2007 Suzuki ก็ใช้เวลาศึกษา และเฟ้นหา ติดต่อสถานที่อยู่พักใหญ่ จนดูเหมือนว่า มีการชะลอแผนดังกล่าว
แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลก เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น พวกเขาก็เริ่มเดินหน้าลุยโครงการ ECO Car
ในเมืองไทยกันอย่างเต็มสูบ เริ่มจากการจัดตั้ง บริษัท Suzuki Automobile (Manufacturing) Thailand จำกัด
เพื่อถ่ายโอนการดำเนินงานด้านการขาย จาก บริษัทเดิม คือ Suzuki Automobile Thailand (SAT)

ตามด้วยการประกาศสร้างโรงงานขนาดใหญ่ มูลค่า 7,500 ล้านบาท ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อิสเทิร์นซีบอร์ด
อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดยเพิ่งจะมีพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกยน 2009 อันเป็นช่วงเริ่มต้น
งาน Motor Expo 2009 ที่ผ่านมาพอดี โรงงานนี้ จะมีขนาดใหญ่โตอลังการงานสร้างมากมาย เพราะสามารถ
ปั้มชิ้นส่วนขึ้นรูป เชื่อมตัวถัง พ่นสี ประกอบ และผลิตเครื่องยนต์ ได้ครบถ้วนเสร็จสรรพ ในรั้วรอบขอบชิดเดียวกัน!

ดังนั้น โอกาสที่เราจะเห็น Suzuki ECO Car คันแรก ออกสู่ตลาด จะยังไม่ใช่ ภายในปี 2011 อย่างแน่นอน 
เพราะกว่าโรงงานจะเสร็จ กว่าที่เครื่องจักรทั้งหมดจะถูกติดตั้ง เดินเครื่องทดสอบระบบ ฝึกอบรมพนักงานใน
สายการประกอบ ไปจนถึง การเตรียมความพร้อมสารพัดด้าน ต้องใช้เวลา นานกว่า 1 ปี แน่ๆ ดังนั้น Suzuki
จึงกำหนดออกมาแล้วว่า ECO Car คันแรกของตน น่าจะพร้อมทำคลอดได้ ในเดือน มีนาคม 2012 

อย่างไรก็ตาม โจทย์ในการเลือกรุ่นรถยนต์ที่จะมาผลิตในโครงการ ECO Car สำหรับ Suzuki แล้ว ถือว่าไม่ง่ายนัก
เพราะหาก Suzuki ตัดสินใจเลือกให้ Swift ใหม่มาผลิตที่เมืองไทย แม้ว่าจะพยายามปรับสเป็กให้เข้าข่ายตาม
ข้อกำหนดโครงการดังกล่าว แต่ก็ต้องเสี่ยงกับการยอมรับจากผู้บริโภค 

เนื่องจาก ในปัจจุบันนี้ Suzuki กำลัง ทำตลาด Swift รุ่นปัจจุบัน ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร 
100 แรงม้า (PS) ซึ่ง เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้รถของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายดั้งเดิมสำหรับรถรุ่นนี้อยู่แล้ว 
อีกทั้งทุกวันนี้ ลูกค้าคนไทยมองว่า Swift เป็นรถยนต์ Sub-Compact Hatchback เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่แข่งขัน
กับ Mazda 2 Hatchback ,Honda Jazz และ Toyota Yaris มากกว่าจะนำไปเปรียบเทียบกับ Nissan March 

การนำ Swift ใหม่ เข้ามาประกอบ อาจทำให้ ลูกค้าเกิดความสับสน ว่า Swift ใหม่ แม้อาจจะมีราคาถูกลงกว่า
ในปัจจุบัน มีขนาดตัวรถใหญ่ขึ้น และนั่งสบายขึ้น แต่เครื่องยนต์ ก็จะมีขนาดความจุกระบอกสูบเล็กลงเหลือ 
1.2 ลิตร พละกำลังอาจด้อยกว่ารถรุ่นปัจจุบัน และนั่นทำให้ ภาพลักษณ์ของ Swift ในตลาดเมืองไทย ซึ่งมองว่า 
เป็นรถเล็ก ขับสนุก พอประมาณ ที่สามารถนำไปตกแต่งเพิ่มสมรรถนะได้ในภายหลัง ต้องลดทอนลงไป จริงอยู่ 
มีแนวโน้มว่า ตัวรถในภาพรวม อาจจะชนะ Nissan March ได้แน่ๆ แต่การลดตำแหน่งการตลาดของ Swift 
ลงไปสู้กับ Nissan March แม้จะทำให้ Suzuki ดูได้เปรียบคู่แข่งเห็นๆ แต่กลุ่มลูกค้าที่มอง Swift อาจไม่คิดเช่นนั้น 
และอาจทำให้ Swift ไม่สามารถเติบโตได้ในตลาดเมืองไทย มากเท่าที่ควรจะเป็น

สิ่งที่ Suzuki ควรจะทำกับ Swift ต่อไป คือการนำรถรุ่นใหม่ เข้ามาทำตลาด ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และวาง
ตำแหน่งการตลาด ชนกับคู่แข่งกลุ่มเดิม ซึ่งเชื่อแน่ว่า รถรุ่นใหม่ จะเอาชนะคู่แข่งได้สบายๆ แต่ทางเลือกนี้
เท่ากับบีบให้ Suzuki ต้องหารถรุ่นอื่น ซึ่งมีขนาดตัวถังเล็กกว่า มีความเหมาะสมต่อการทำราคาให้ถูกลงไป
ได้ยิ่งกว่านี้อีก เข้ามาทำตลาด แต่ จะเป็นรถรุ่นใดกัน?

ถ้าเป็นรถรุ่น Celerio หรือ Alto เวอร์ชันอินเดีย ละก็ ลืมไปได้เลย ฐานการผลิตของรถรุ่นนี้ จะอยู่ที่อินเดีย 
แห่งเดียว ดูแลโดย Maruti Suzuki Udyog เพื่อป้อนตลาดในแดนภารตะ และตลาดส่งออกไปยังยุโรป อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่รถคันนี้จะเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ก็ยังมีอยู่ ยังละสายตาไปไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น